183
已評論
產品
0
帳戶內
產品

SYD the Red 最近的評論

< 1  2  3  4  5 ... 19 >
目前顯示第 21-30 項,共 183 項
14 個人認為這篇評論值得參考
總時數 24.2 小時 (評論時已進行 17.8 小時)
搶先體驗版評論
นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ World of Horror เปิด Early Access ในช่วงต้นปี 2020 ผมก็เฝ้ารอที่จะเล่นเกมนี้มาตลอดเมื่อมันกลายเป็นตัวเต็ม แต่เวลาล่วงผ่านมากว่า 2 ปี ก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าตัวเกมจะเสร็จ (เหตุที่การพัฒนาเกมเป็นไปได้อย่างล่าช้าเพราะเกมพัฒนาโดยคน ๆ เดียว โดยคุณ Paweł Koźmiński ชาวโปแลนด์) ผมก็เลยตัดสินใจที่จะซื้อเกมนี้มาเล่นทั้งที่ยังเป็น Early Access โดยที่ไม่คาดหวังว่าเกมจะสมบูรณ์แบบมากมายสักเท่าใดนัก (ความเห็นนี้ถูกเขียนขึ้นในช่วงเวอร์ชั่น 0.9.9)

ถึงตัวเกมจะยังคงเป็น Early Access แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าตัวเกมสามารถที่จะสร้างความประทับใจให้กับผมได้เป็นอย่างมาก โดยเนื้อหาของเกมนั้นก็จะกล่าวถึงเรื่องประหลาดที่ได้เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และเราก็จะได้รับบทเป็นเหล่านักสืบเพื่อที่จะไขคดีเหล่านั้น สุดท้ายแล้วคดีทั้งหมดก็จะเชื่อมโยงไปยังเทพจากต่างโลกที่กำลังนำพามาซึ่งจุดสิ้นสุดของมวลมนุษยชาติ

ฟังดูออกจะเป็นอะไรที่เลิฟคราฟท์ชะมัด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตัวเกมได้โฆษณาเอาไว้ว่าเป็นเกมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจดหมายรักแด่คุณเลิฟคราฟท์ และงานศิลป์ของเกมนั้นก็ให้อารมณ์แทบจะถอดแบบมาจากงานของอาจารย์จุนจิ อิตโต้ที่ผมเชื่อว่าผู้อ่านส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยหรือไม่ก็พอจะเคยได้ยินนาม ตัวเกมจึงค่อนข้างที่จะให้อารมณ์คล้ายกับ Tabletop RPG อย่าง Call of Cthulhu เป็นอย่างมาก

ในช่วงแรกที่เริ่มเล่น หน้าจอของเกมอาจจะชวนให้คุณรู้สึกสับสน เพราะมันมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วตัวเกมก็เข้าใจไม่ยากนัก สิ่งที่คุณจะต้องทำก็มีเพียงแค่ไล่สำรวจไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเคลื่อนพล็อต คุณจะได้มีโอกาสพบเจอกับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดต่าง ๆ และอาจจะได้พบเจอกับการต่อสู้ (ระบบต่อสู้ของเกมเป็นแบบผลัดกันตี) คุณจำเป็นที่จะต้องคลายปมของคดีทั้งหมดเพื่อหยุดเหล่าสาวกของเหล่าเทพจากต่างโลกให้ได้ก่อนที่นายของพวกมันจะตื่นขึ้น (ในเกมมีค่า Doom ที่จะเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ Turn ที่ผ่านไป อาจจะลดหรือเพิ่มได้ตามการตัดสินใจของคุณ)

และก็เหมือนดังเช่นเกมในสไตน์เลิฟคราฟท์โดยทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ ในความยากระดับปกติหรือสูงกว่า ตัวเกมนั้นมีความดุเอามาก ๆ และเป็นไปได้ว่าแคมเปญดังกล่าวจะจบลงด้วยความล้มเหลว ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องคิดวางแผนอยู่หนักพอสมควรเพื่อเอาชนะ แต่เมื่อคุณสามารถที่จะปลดล็อค Achievement ใด ๆ ในเกมได้ คุณก็จะมีโอกาสได้พบเจอกับอาวุธใหม่ ๆ ตัวละครใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ๆ หรือเหตุการณ์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การเล่นครั้งต่อ ๆ ไปของคุณน่าสนใจมากขึ้น (แต่ไม่การันตีว่าเกมจะง่ายขึ้น)

ในภาพรวมแล้วตัวเกมนั้นให้อารมณ์หนักไปทาง Rougelike อยู่มากพอสมควร ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะย้อนกลับมาเล่นได้หลายครั้งจนกว่าคุณจะเบื่อ ซึ่งตัวผมเองก็ได้นั่งเล่นวนเวียนมาจนถึงบัดนี้หลายสิบรอบ แต่ก็ยังคงรู้สึกสนุกกับมัน การแสดงผลแบบ 1-bit ของเกมนั้นไม่ได้ชวนให้รู้สึกขัดใจแต่อย่างใด (ผมรู้สึกทึ่งอยู่ไม่น้อยที่ได้รู้ว่างานศิลป์ต่าง ๆ ของเกมถูกทำขึ้นใน MS Paint)

แต่ในเมื่อตัวเกมนั้นขัดเคลื่อนด้วยเนื้อหาหรือเหตุการณ์ที่เราจะได้พบ ดังนั้นผมจึงอยากที่จะแนะนำว่าคุณควรที่จะมีพื้นฐานทางภาษาอังกฤษดีในระดับหนึ่งเพื่อที่จะเล่นเกมนี้ให้สนุก และผมไม่แนะนำเลยถ้าคุณไม่ชอบเกมที่จะต้องอ่าน

สรุปแล้วถ้าคุณชอบงานแนวเลิฟคราฟท์หรือมังงะของอาจารย์จุนจิ อิตโต้ ผมก็แนะนำว่า World of Horror เป็นหนึ่งในเกมที่คุณไม่ควรจะพลาด ถึงแม้ ณ ขณะที่ผมเขียนความเห็นนี้ตัวเกมจะยังคงเป็น Early Access แต่มันก็มีความสมบูรณ์มากและผมแทบจะไม่พบเจอกับปัญหาจุกจิกกวนใจแต่อย่างใด

+ เกมที่เป็นเหมือนจดหมายรักถึงคุณเลิฟคราฟท์
+ แต่ละคดีล้วนแต่ประหลาด น่าสนใจเอามาก ๆ ตามแบบฉบับ Weird Fiction
+ งานภาพ 1-bit ที่ดีจนยากจะเชื่อได้ว่าทำขึ้นจาก MS Paint
+ ตัวเกมเล่นวนเวียนไปได้นับครั้งไม่ถ้วนจนกว่าจะเบื่อตามสไตน์ Roguelike
- ถ้าคุณไม่ชอบอ่าน ผมก็ไม่แนะนำให้คุณเล่น

ปล. ถ้าคุณชอบความเห็นนี้ ก็เป็นไปได้มากว่าคุณจะชอบเพจนี้ เรื่องเล่าจากข้างใต้ผืนฟ้าที่ไร้แสง [www.facebook.com]
張貼於 2023 年 1 月 3 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
31 個人認為這篇評論值得參考
2 個人認為這篇評論很有趣
總時數 122.8 小時 (評論時已進行 14.5 小時)
เป็นเวลานานมากแล้วที่ผมเฝ้าคอยให้ Cardfight Vanguard มีฉบับแปลภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ และ Dear Days ก็คือเกมแรกที่ทำให้ผมสมหวัง โดยนอกจากตัวเกมจะได้รับการแปลเป็นอังกฤษ ตัวเกมนั้นก็ยังลง PC บน Steam ด้วย ถึงแม้ราคาจะสาหัสอยู่พอสมควรตามสไตน์เกมจากชาวเกาะ แต่ผมก็รู้สึกไม่ลังเลเลยที่จะซื้อ และพยายามมองในแง่ดีอย่างน้อยก็ถูกกว่าไปปั้น Decks ของจริงเยอะ

หลายคนอาจจะเอา DD ไปเทียบกับ Master Duel แต่ในความเป็นจริงแล้วเกมที่คล้ายกันน่าจะเป็น Legacy of Duelist มากกว่า เพราะทั้งสองเกมนั้นเป็นเกมการ์ดที่เน้น Single Player และเนื้อเรื่องเหมือนกัน โดย DD นั้นก็จะเป็นเกมที่ใช้ระบบ Standard Format และเราก็จะได้รับบทเล่นเป็นตัวเอกสาวที่ชื่อ Yuki ซึ่งได้มีโอกาสมาเล่นการ์ดเพราะน้องชาย เนื้อหาของเรื่องนั้นก็จะวางอยู่ในจักรวาล Overdress และเราก็จะมีโอกาสได้พบเจอกับตัวละครที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งหลายอย่างยูยูหรือดันจิด้วย ภายในเกมจะใช้วิธีเล่าเรื่องแบบ Visual Novel ที่ไม่มีเสียงพากย์ และภาพรวมของเกมส่วนใหญ่ เราก็จะต้องสู้กับตัวละครที่ปรากฏตัวขึ้นบนแผนที่เพื่อเอาแต้มไปแกะซองหาการ์ด

เกมนั้นจะมีแต้มอยู่สองรูปแบบคือ VP กับ CP สำหรับ VP ก็จะเป็นแต้มที่คุณได้รับหลังจากที่ไม่สู้กับ AI ชนะได้มากหน่อย แพ้ก็น้อยหน่อย โดยแต้มนี้ก็จะถูกนำไปใช้เพื่อเปิดซองหรือซื้อของตกแต่งในร้าน โดย CP จะได้รับเมื่อคุณเปิดการ์ดซ้ำเกินลิมิต การ์ดที่เกินก็จะถูกย่อยเป็นแต้ม และแต้มนี้ก็จะสามารถนำไปใช้สร้างการ์ดที่ยังไม่มีได้ โดยการ์ดทุกใบที่มีอยู่ในเกมภาคหลักสามารถที่จะเปิดซองหรือสร้างได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อ DLCs เพิ่มแต่อย่างใด (DLCs ทั้งหลายที่เป็นชื่อบูสเตอร์ มีไว้สำหรับคนขี้เกียจเล่น ก็สามารถที่จะซื้อเพื่อปลดล็อคการ์ดทั้งหมดในชุดได้) ยกเว้นก็แต่ชุดการ์ดที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง ที่คุณอาจจำเป็นจะต้องมี Additional Card Pass เพื่อเข้าถึง (ได้ยินมาว่าซื้อแยกเป็นบูสเตอร์ได้)

หน้าตา UI ของเกมอาจจะแลดูไม่ชวนให้รู้สึกชื่นชมสักเท่าใดนัก แต่มันก็สามารถที่จะทำงานได้ดีไร้ตำหนิ ตัวเกมมีเอฟเฟคตอนตีและมีเสียงตัวละครประกอบ ส่วนระบบควบคุม ตัวเกมทำได้ดีสำหรับคอนโทรลเลอร์ แต่ออกจะรู้สึก ๆ ขัดอยู่ไม่น้อยตอนที่ใช้เมาส์+คีย์บอร์ด ถ้าคุณต้องการแค่ Official Simulator เอาไว้สำหรับเล่นให้หายคัน ไม่ได้ต้องการที่จะโบยบินไปถึงดาวเคลย์เพื่อดูแวนการ์ดตีกัน ตัวเกมก็จัดได้ว่าตอบโจทย์คุณได้ดีเยี่ยม (บางท่านอาจจะอยากได้ 3D แต่ในฐานะที่เคยเล่นเกมอย่าง Legacy of Duelist มา ขอร้องเลยว่าอย่ามีจะดีกว่า)

สำหรับการจัดเดค ตัวเกมนั้นสามารถที่จะตั้งตัวกรองและค้นหา Keyword เพื่อหาการ์ด การค้นหาการ์ดจึงทำได้สะดวกพอสมควร (อาจจะมีมึน ๆ หน่อยสำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มเล่น และไม่ค่อยคุ้นกับ Standard Format ณ ปัจจุบันสักเท่าไหร่) แต่ปัญหาก็คือการ์ดใบหนึ่งนั้นมีระดับความหายากที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีหลายรหัส การ์ดบางใบจึงอาจจะมีหลายสิบเวอร์ชั่นและทำให้รู้สึกเกะกะสายตาอยู่มากพอสมควร

ในภาพรวมแล้ว Cardfight!! Vanguard Dear Days ก็จัดได้ว่า "คุ้มค่าแก่การรอคอย" เพราะมันสามารถที่จะตอบโจทย์ผู้เล่นแวนการ์ดได้ครบถ้วน ราคาอาจจะแรงไปไม่น้อย ดังนั้นถ้าคุณไม่รีบร้อน จะรอลดราคาหลังจากที่ตัวเกมออกบูสเตอร์มาครบก็ยังไม่สาย

- ราคาค่าตัวสุดสะเทือนขวัญ

+ Cardfight!! Vanguard เกมแรกที่ถูกแปลเป็น ENG อีกทั้งยังลง PC

+ ตัวเกมเน้น Single Player ที่คุณสามารถปลดล็อคทุกสิ่งทุกอย่างได้จากการเล่น ไม่ต้องจ่ายเพิ่มให้ DLCs (ยกเว้นบูสเตอร์เสริมใน Season Pass ในอนาคต)

+/- ระบบควบคุมไปได้สวยกับคอนโทรลเลอร์ แต่รู้สึกแปลก ๆ ตอนที่ใช้ M+KB

- ตัวเกมเล่าเรื่องด้วย Visual Novel และไม่มีเสียงประกอบ (แต่ตอนต่อสู้ก็ยังมีเสียงตัวละครพากย์)

- ตัวเกมไม่มี Cross-platform ซึ่งก็ออกจะน่าเสียดาย เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะอยู่บน Switch (แต่นี่คงไม่ใช่ปัญหาถ้าคุณเป็นสาย Single Player อยู่แล้ว)
張貼於 2022 年 11 月 18 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
6 個人認為這篇評論值得參考
總時數 9.0 小時
ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ซื้อ Little Witch Nobeta มาเพราะสาว ๆ Hololive และในคราแรกก็ไม่ได้คิดตั้งหวังกับเกมสักเท่าไหร่ และก็อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ตั้งหวังอะไรกับเกมมาตั้งแต่แรก ผมจึงรู้สึกสนุกกับเกมได้เป็นอย่างมาก มากเสียจนทำให้ผมรู้สึกอยากที่จะเขียนแนะนำให้กับทุกท่านที่ไม่คุ้นกับเกมหรือกำลังตัดสินใจ

Little Witch Nobeta นั้นก็เป็นเกมแนว Soulslike (เกมที่ควรจะยากเสียจนทำให้คุณต้องกลับไปเกิดใหม่วนไปนับครั้งไม่ถ้วน) ที่คุณจะได้รับบทเป็นสาวน้อยเวทมนตร์สุดน่ารักนามว่า โนเบต้า (ที่ให้เสียงโดย Konomi Kohara เจ้าของเสียง Chika จาก Kaguya-sama: Love is War) โดยเธอก็ได้เดินทางมายังปราสาทอันเป็นฉากหลังของเรื่องเพื่อที่จะค้นหาว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร และคุณก็จะได้เผชิญหน้ากับอสูรกายนานาพันธุ์ และบอสอันเป็นเหล่าไวฟุที่ให้เสียงโดยสาว ๆ Hololive ที่หลายท่านต่างก็คุ้นเสียงกัน (โปลก้า ฟุบุกิ กับโนเอล)

ในช่วงนาทีแรก ๆ ของเกมที่ได้สัมผัส คุณอาจจะรู้สึกว่าระบบการเล่นของเกมมันช่างธรรมดาสามัญชะมัด แต่เมื่อคุณได้ลองทนเล่นไปอีกสักพัก และเริ่มที่จะเข้าใจเกี่ยวกับระบบการร่ายเวทมนตร์ อีกทั้งยังได้คาถาต่าง ๆ มาเพิ่ม คุณก็จะพบว่าเกมนี้เป็น Shooting ที่สนุกชะมัด เพราะเวทมนตร์ที่ใช้โจมตีนั้นในทางปฏิบัติก็เหมือนกับอาวุธปืนมากกว่าที่จะเป็นเวทมนตร์ นอกจากจะใช้เพื่อโจมตีแล้ว เรายังสามารถที่จะใช้เวทมนตร์เหล่านั้นได้หลากหลายวิธีเอามาก ๆ (ยกตัวอย่างเช่นเวทมนตร์สายฟ้าที่ปกติโจมตีแบบซูมยิงเหมือนสไนเปอร์ ก็สามารถที่จะช่วยชะลอเวลาเมื่อกดร่าย และส่งผลให้คุณเคลื่อนที่หลบหลีกการโจมตีของบอสที่มักจะมาเหมือน Bullet Hell ได้ง่ายมาก ๆ)

โดยปกติแล้วเกมแนวมุมมองบุคคลที่สามนี้ก็มักจะเหมาะกับการใช้คอนโทรลเลอร์ แต่ก็เหมือนที่ผมเพิ่งจะบอกไป เนื่องจากการโจมตีของเวทมนตร์ส่วนใหญ่เหมือนกับอาวุธปืนมากกว่า ดังนั้นตัวเกมจึงเหมาะที่เล่นกับเมาส์และคีย์บอร์ดมากกว่าคอนโทรลเลอร์พอสมควร

ระบบอัพเกรดตัวละครของเกมนั้นก็ไม่ซับซ้อนนัก โนเบต้าสามารถที่จะใช้แต้มที่ได้รับจากการสังหารศัตรูมาอัพเกรดตัวเองได้ที่จุดเซฟคล้ายกับเกมแนว Soulslike โดยทั่วไป แต่ดีกว่าหน่อยตรงที่เมื่อคุณตายแต้มก็ไม่หาย และศัตรูก็ยังเกิดใหม่มาให้กับคุณเก็บแต้มได้เรื่อย ๆ ดังนั้นต่อให้คุณจะตายซ้ำตายซาก คุณก็ยังสามารถที่จะผ่านฉากได้ถ้าคุณมีความพยายามมากพอ (เกมจะง่ายขึ้นมาก ๆ ถ้าคุณอัพเกรดแต้มทุกอย่างไปพร้อม ๆ กัน ในช่วงปลายเกมผมแทบจะไม่พลาดตายเลยยกเว้นแต่โง่กลิ้งตกเหวไปเองเพราะจำปุ่มกระโดดกับกลิ้งสลับกัน)

ตัวเกมนั้นก็มีของให้ปลดล็อคสะสมเช่นชุดของน้องโนเบต้าที่มีอยู่สี่ชุดด้วยกัน และของสะสมอื่น ๆ ที่มีอยู่เพื่อช่วยบอกเล่าเรื่องราวของโลกในฉากหลังที่ถูกซ่อนอยู่อย่างกระจัดกระจายตามจุดต่าง ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสือเวทมนตร์ที่ช่วยให้คุณสามารถที่จะเรียนรู้และอัพเกรดมันซ่อนอยู่ภายในหีบต่าง ๆ ตัวเกมในโหมดความยากปกติอาจจะไม่ยาวนัก ตัวผมเองใช้เวลาเล่นไปเรื่อยเปื่อยก็ไม่มากเกินไปกว่าสิบชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าคุณต้องการที่จะเก็บทุกอย่างให้ครบ คุณก็อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น

สิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับเกมก็คงจะเป็นฉากของเกมที่แลดูตกยุคไปมาก และแลดูไม่ค่อยจะมีความสร้างสรรค์สักเท่าไหร่ ถ้าเกมเลือกที่จะทำฉากหลังออกมาเป็นการ์ตูนคล้ายกับตัวละคร ตัวเกมก็น่าจะแลดูดีกว่านี้มาก

ในภาพรวมแล้ว Little Witch Nobeta ก็จัดได้ว่าเป็นเกมที่มีคุณภาพมาก ๆ ถ้าคุณไม่ใช่สายเกมเมอร์ที่ยึดติดกับภาพงาม ๆ เป็นเกมที่ดีหลายอย่างโดยเฉพาะในส่วนของระบบการเล่น ผมจึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทุกท่านได้ลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเกมอยู่ในช่วงลดราคา

+++ บอสหลักทั้งสามในเกมที่ให้เสียงโดยสาว ๆ Hololive (โปลก้า ฟุบุกิ กับโนเอล) และโนเบต้าก็ให้เสียงโดย Konomi Kohara)
++ ระบบเวทมนตร์ของเกมที่สร้างสรรค์และสนุกเอามาก ๆ ที่จะใช้
- กราฟฟิคแลดูตกยุค และฉากก็ออกแบบได้ไม่สร้างสรรค์สักเท่าไหร่
張貼於 2022 年 9 月 29 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
5 個人認為這篇評論值得參考
總時數 17.1 小時 (評論時已進行 13.6 小時)
เป็นเวลาเกือบจะครบห้าปีที่ Northgard ได้วางจำหน่ายกว่าที่ผมจะมีโอกาสได้ลองแตะมันเพราะตัวเกมเปิดให้ลองฟรีในเวลาจำกัดบน Steam และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมาก็คือผมตัดสินใจที่จะซื้อมันแบบครบชุดรวมทั้ง DLCs

Northgard เป็นเกมที่ออกจะแปลกอยู่ไม่น้อย เพราะระบบในภาพรวมของเกมเป็น RTS (Real-time Strategy) แต่ความรู้สึกในตอนเล่นนั้นกลับชวนให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมกระดานหรือ 4x มากกว่า เหตุผลก็เพราะแผนที่ของเกมนั้นจะถูกตัดแบ่งออกเป็นส่วน ๆ โดยในแต่ละส่วนนั้นก็จะมอบทรัพยากรแตกต่างกันออกไป Northgard จึงเป็นเกมแนว RTS ที่เน้นไปกับการบริหารทรัพยากรที่คุณพบและมีในมือให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แทนที่จะเร่งเก็บเกี่ยวทรัพยากรเพื่อสร้างกองทัพเข้าถล่มกันแบบ RTS โดยทั่วไปที่ชาวเกมเมอร์ทั้งหลายต่างก็คุ้นเคยกัน

เพียงแค่เห็นชื่อของเกม หลายคนก็พอที่จะเดาได้ว่าโลกในฉากหลังของเกมนั้นก็จะเป็นธีมแบบไวกิ้ง โดยเรานั้นก็จะได้รับบทเป็นผู้นำเผ่าต่าง ๆ ที่มีชื่อเรียกตามสัตว์ชนิดต่าง ๆ หรืออสูรกายจากตำนานนอร์ส รูปลักษณ์ภายนอกของแต่ละเผ่าอาจจะแลดูไม่ต่างกัน (ซึ่งก็ออกจะน่าเสียดายอยู่) ทว่าแต่ละเผ่าก็จะมีจุดเด่นและสไตน์การเล่นที่แตกต่างกันออกไป

บางเผ่าก็อาจจะเน้นการทหาร บางเผ่าก็อาจจะเน้นไปที่การหาเงิน และบางเผ่าก็อาจจะมุ่งเน้นไปที่การรีดทรัพยากรมาใช้อย่างคุ้มค่าตามแบบเกมแนว 4x ตัวเกมมีเงื่อนไขการแพ้ชนะอันหลากหลาย คุณสามารถที่จะใช้ทหารเพื่อเอาชนะ ค้าขายจนชนะ วิจัยจนชนะ หรือทำเงื่อนไขพิเศษบนแผนที่จนชนะก็ยังได้ ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม Northgard เป็นเกมประเภทที่ยากจะสร้างความประทับใจให้ได้ในชั่วโมงแรก ๆ ที่เล่น เพราะตัวเกมอาจจะมีระบบการเล่นที่เข้าใจไม่ยาก ทว่าตัวเกมนั้นก็มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก และเป็นเกมประเภทที่คุณจำเป็นจะต้องวางแผนล่วงหน้าในเกือบจะทุกขั้นตอน ไม่ใช่เล่นไปตามสัญชาตญาณหรือตามเวรตามกรรม ดังนั้นคุณจึงอาจจำเป็นที่จะต้องศึกษาลึกลงไปในธรรมชาติของเกมเพื่อปรับตัวให้ชินกับมันเสียก่อน เมื่อคุณคุ้นชินกับธรรมชาติของเกมและเริ่มที่จะคิดได้อย่างเป็นระบบแล้ว Northgard ก็จัดได้เป็นอีกหนึ่งเกมที่สามารถจะทำให้คุณเสพติดได้

+ 4x แบบ Real-time ที่มีกฎอันเรียบง่ายแต่โปรยาก

+ มีหลายโหมดให้เลือกเล่น และมีหลายสิ่งสำหรับผู้เล่นใหม่ให้ได้ไล่ปลดล็อค

+/- แต่ละเผ่ามีสไตน์การเล่นอันเป็นลักษณะเฉพาะของตนที่ต่างกัน ถึงแม้หน้าตาจะแลดูไม่ต่างไปจากกันก็ตาม

(?) อาจจะเพราะตัวเกมมีความซับซ้อนค่อนข้างสูงมาก AI จึงมักที่จะตามการตัดสินใจของผู้เล่นไม่ค่อยทัน และมักจะจบตรงที่พวกมันได้แสปมยูนิตเข้าใส่คุณ ผมได้เห็นโพสต์เกี่ยวกับว่า AI ระดับความยากสูงมีการโกงทรัพยากร ซึ่งมีความเป็นไปได้มาก แต่ผมยังไม่ชำนาญเกมพอที่จะยืนยันเรื่องนี้ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณและศึกษาก่อนที่จะเชื่อสิ่งใดที่คุณได้อ่านหรือฟัง
張貼於 2022 年 8 月 2 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
3 個人認為這篇評論值得參考
總時數 74.5 小時 (評論時已進行 34.0 小時)
เมื่อกล่าวถึงสามก๊ก จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ก็คือเหล่าตัวละครทั้งหลายและการชิงเหลี่ยมเฉือนคมกันระหว่างตัวละคร ดังนั้นเมื่อสามก๊กได้ถูกหยิบยกมาทำเป็นเกม ตัวเกมจึงมักจำเป็นที่จะต้องมีระบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างเหล่าตัวละคร และ Romance of the Three Kingdoms XIII ของ KOEI ก็มีจุดขายคือเรื่องนี้

ภายในสามก๊ก 13 ผู้เล่นจะได้มีโอกาสเลือกเล่นเป็นตัวละครใดก็ได้ในวรรณกรรมสามก๊ก คุณอาจจะเลือกเล่นเป็นตัวละครหลักอย่างหลิวเป้ย์ เฉาเชา เตียวฉาน ฯลฯ หรือจะเลือกเล่นเป็นตัวละครที่ไม่สลักสำคัญที่มักจะถูกลืมนามคนใดในเรื่องก็ได้ หรือถ้าคุณต้องการสร้างตัวละครแกรี่/แมรี่ ซูขึ้นเพื่อแทนตัวเองก็ยังได้ โดยเป้าหมายหลักของเกมก็คือการสวมบทเป็นตัวละครเหล่านี้และช่วยนำพาพวกเขาไปสู่การเป็นจักรพรรดิ (หรือจักรพรรดินี)

ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนักถ้าคนที่ชอบซีรีย์นี้ของ KOEI ที่เคยเล่นมาทุกภาคจะเกลียดมัน เพราะเกมลดความเป็น Strategy ลงและหันไปเน้นระบบการสวมบทบาทมากขึ้น (คุณจะได้ควบคุมตัวละครเพียงหนึ่ง แต่เมื่อคุณมีตำแหน่งที่สูงขึ้นเช่นได้ขึ้นเป็นเจ้าเมือง คุณก็จะมีอำนาจสั่งการแม่ทัพขุนนางที่อยู่ใต้อำนาจของคุณด้วย) ดังนั้นถ้าคุณชอบเกมสวมบทบาทแบบ Sandbox (คล้าย ๆ กับ Crusader Kings ของค่าย Paradox) ก็เป็นไปได้มากที่คุณจะชอบเกมนี้

ระบบของเกมนั้นก็เข้าใจได้ไม่ยากสักเท่าใดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นผู้เล่นสาย Strategy อยู่แล้ว ตัวเกมจะสอนระบบเบื้องต้นให้กับคุณผ่านโหมด Heroic ที่มีเนื้อหาอ้างอิงตามวรรณกรรม ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้คุณกลับไปลงสนามจริงในโหมด Main ที่คุณจะเลือกเป็นใครก็ได้

ระบบของเกมที่เข้าถึงได้ง่ายก็ไม่ได้หมายถึงว่าตัวเกมน่าเบื่อไม่หลากหลาย เพราะระบบการเล่นของแต่ละสายมีลูกเล่นที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นในการรบก็จะใช้ระบบ Strategy ที่ต้องควบคุมทหารเข้ารบกันแบบ Real-time ส่วนการดวลตัวต่อตัวกับการปะทะคารมก็จะใช้ระบบเหมือนกับเป่ายิ้งฉุบที่มีกฎซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย หรือในเกมการทูตนั้น ก็จะเน้นไปที่การสร้างพวกพ้องและเสียบหลังกัน เมื่อตัวละครเปลี่ยน ประสบการณ์ที่คุณได้สัมผัสก็จะเปลี่ยนไปด้วยเพราะตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่มีลักษณะเฉพาะที่ต่างกัน (แต่ตัวละครที่ทำได้เกือบจะทุกอย่างก็มีเช่นหลิวเป้ย์หรือเฉาเชา) มันจึงเป็น Sandbox ที่คุณสามารถจะเล่นซ้ำได้มากครั้งตราบใดที่คุณไม่ใช่ผู้เล่นในกลุ่มไล่ทาสีแผนที่เพียงเพื่อชนะเพียงเท่านั้น (ถ้าคุณเป็นผู้เล่นในกลุ่มนี้ ผมแนะนำให้เลี่ยงขาดจากเกมนี้)

สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะเตือนก็คือถ้าคุณคิดจะเล่นเกมนี้ คุณควรที่จะซื้อภาคหลักพร้อมกับภาคเสริม Fame and Strategy เท่านั้น คุณไม่ควรที่จะเล่นภาคหลักโดด ๆ เพราะในภาคเสริมตัวนี้จะเพิ่มระบบสำคัญหลากหลายอย่างเข้ามาไม่ว่าจะเป็น Prestige อันเป็นระบบที่คล้ายกับ Lifestyle ของ Crusader Kings ที่ช่วยเพิ่มความสามารถพิเศษให้กับตัวละครตาม Prestige ที่เลือกและปลดล็อคได้สำเร็จ (ระบบนี้ช่วยให้คุณสามารถจะปรับแต่ง Build ของตัวละครได้อย่างหลากหลาย) อีกทั้งในภาคนี้ยังมีระบบยิบย่อยอีกเยอะแยะที่ช่วยเสริมอรรถรสในการเล่น แน่นอนว่าเหตุที่คะแนนวิจารณ์จากผู้เล่นย่ำแย่ก็เพราะราคาที่สูง ไม่ใช่คุณภาพของมันแต่อย่างใด ซึ่งถ้าคุณถามผม ผมก็เห็นด้วยกับความเห็นทั้งหลาย มันควรจะเป็นระบบที่มากับเกมตั้งแต่แรก ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมาแยกขายในราคาเต็มที่แพงนรกอย่างนี้ อย่างไรก็ดีถ้า Bundle รวมภาคเสริมและภาคหลักลดราคาต่ำกว่า 50% ก็ยังนับได้ว่าควรค่ามากพอที่จะกดถ้าคุณรักในสามก๊ก

สรุปแล้ว สามก๊ก 13 ออกจะเป็นเกมที่แปลกแยกไปจากเกมในซีรีย์เดียวกันค่อนข้างมาก แต่ถ้าคุณกำลังมองหาเกมสวมบทบาทที่อิงวรรณกรรมประวัติศาสตร์ยอดนิยมเรื่องนี้ นี่ก็คือเกมที่คุณควรจะลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันลดราคา (ผมไม่แนะนำให้ซื้อในราคาเต็ม ไม่ว่าคุณจะมีเหตุผลที่ดีเพียงใดก็ตาม)
張貼於 2022 年 5 月 5 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
8 個人認為這篇評論值得參考
1 個人認為這篇評論很有趣
總時數 11.4 小時 (評論時已進行 8.0 小時)
ลอนดอนปี 2075,
เทคโนโลยีของมนุษยชาติก้าวล้ำถึงขนาดสามารถที่จะคิดค้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถจะคำนวณและหยุดยั้งเหตุอาชญากรรมได้สำเร็จก่อนที่จะเกิด ถึงกระนั้นเราก็ยังคงไม่อาจที่จะหาทางหยุดยั้งเหตุการณ์ที่เลี่ยงมิได้บางอย่างอยู่ดี มนุษย์จึงได้ตัดสินใจที่จะสร้างปัญญาประดิษฐ์นามว่า เชอร์ล็อค (Sherlock) ขึ้นตามนามของนักสืบในนิยายผู้โด่งดังเพื่อรับมือและแก้ไขเหตุที่ยากจะเลี่ยงได้เหล่านี้โดยเฉพาะ

แต่หลังจากที่ได้ศึกษาเหตุการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้เหล่านั้นจนกระจ่าง เชอร์ล็อคก็พบข้อเท็จจริงอันน่าสะพรึงประการหนึ่งที่ว่าเบื้องหลังคดีเหล่านั้น มี AI สุดโฉดที่เรียกว่ามอริอาตี้ (Moriarty) คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง และก็เป็นหน้าที่ของคุณเหล่านักสืบที่จะต้องร่วมมือกับเชอร์ล็อคเพื่อหยุดมัน (หรือในกรณีที่คุณอยู่ฝ่ายมอริอาตี้ คุณก็จำเป็นที่จะต้องหาหนทางเพื่อเอาชนะเชอร์ล็อคให้จงได้)

CRIMESIGHT เป็นเกมแบบ Social Deduction ที่ผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นฝ่ายเชอร์ล็อคและมอริอาตี้ (จะมี Irene เพิ่มเข้ามาเพื่อร่วมสร้างความปั่นป่วนในกรณีเป็นโหมด 2v2) ตัวเกมจะเล่นเป็น Turn โดยฝ่ายเชอร์ล็อคก็มีหน้าที่ในการระบุตัวฆาตกรและเป้าหมายให้ได้เพื่อหาหนทางช่วยเป้าหมายให้มีชีวิตรอดจนจบเกม ส่วนฝ่ายมอริอาตี้ก็จำเป็นที่จะต้องวางแผนหาทางที่จะสนับสนุนฆาตกรให้สังหารเหยื่อให้จงได้

เหล่าตัวละครในเกมจะถูกเรียกว่า “ตัวหมาก” (Pawn) ที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายสามารถที่จะควบคุมได้เพื่อสำรวจรอบ ๆ คฤหาสน์ จะมีก็เพียงแค่เหยื่อที่เป็นตัวหมากตัวเดียวในเกมที่ผู้เล่นฝ่ายมอริอาตี้ไม่อาจจะควบคุมได้ โดยเมื่อใดก็ตามที่มอริอาตี้ได้ขยับหมากตัวเดียวกับเชอร์ล็อค ผู้เล่นฝ่ายเชอร์ล็อคจึงสามารถที่จะบอกได้ว่าหมากตัวนั้นไม่ใช่เหยื่อ ผู้เล่นฝ่ายเชอร์ล็อคจำเป็นที่จะต้องใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ ตัดความเป็นไปไม่ได้ออกไปเพื่อจะหาตัวฆาตกร ซึ่งเมื่อเกมดำเนินไป เชอร์ล็อคก็จะช่วยสนับสนุนคุณโดยช่วยตัดตัวเลือกที่เป็นไปไม่ได้ให้ ตัวเกมจึงเน้นการใช้สมองเพื่อหักเหลี่ยมเฉือนคมกันระหว่างผู้เล่นสองฝ่าย

สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมก็คือระบบการเล่นบังคับให้ตัวหมากต้องเดินออกสำรวจเพื่อหาอาวุธป้องกันตัวและอาหาร แน่นอนว่าตัวละครไม่อาจที่จะอดตายได้ แต่ความหิวจะทำให้ตัวละครเคลื่อนที่ได้สั้นลงในแต่ละ Turn อาหารจึงจำเป็นมากสำหรับตัวหมากที่เป็นเป้าหมายและฆาตกร เพราะเป้าหมายจำเป็นจะต้องมีความคล่องตัวเพื่อหนี ส่วนฆาตกรก็ต้องการความคล่องตัวเพื่อไล่ล่า และเมื่อเกมดำเนินไป ก็จะมีอุปสรรคมากมายเช่นก๊าซพิษหรือสุนัขเร่ร่อนที่โผล่มาสร้างปัญหาให้กับตัวหมากและจำเป็นจะต้องใช้ไอเท็มจากการสำรวจเพื่อเอาชนะหรือแก้ไข

ในเมื่อตัวเกมเป็น Social Deduction การสื่อสารระหว่างผู้เล่นจึงสำคัญมาก ตัวเกมจะใช้อิโมจิเพื่อสื่อสารระหว่างกัน ฝ่ายนักสืบจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อระบุบทบาทของตัวหมาก ในขณะที่ฝ่ายมอริอาตี้ก็สามารถที่จะใช้การสื่อสารเพื่อปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ระบบอิโมจิในเกมมีประสิทธิภาพมากถ้าคุณใช้งานเป็น แต่เกมจะสนุกขึ้นเยอะมากถ้าคุณสามารถสื่อสารกับเพื่อนได้ผ่านไมค์โดยอาศัย Steam หรือ Discord

ในภาพรวม CRIMESIGHT เป็นเกมที่ส่วนตัวผมรู้สึก “ประทับใจเอามาก ๆ” และ “แนะนำเป็นอย่างยิ่ง” มันเป็นอีกเกมหนึ่งที่เหมาะมาก ๆ จริง ๆ จะใช้นั่งรวมกลุ่มเล่นกันในหมู่เพื่อน
張貼於 2022 年 4 月 15 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
14 個人認為這篇評論值得參考
總時數 3.7 小時
ถึงแม้ตัวผมเองจะเป็นชาวเลิฟคราฟท์เธียน แต่ในคราแรกผมก็ไม่ได้คิดสนใจในเกม Sucker for Love มากนัก เพราะผมเคยคาดว่ามันจะเป็นเกมสุดโม่ยที่ทำมาขำ ๆ จนกระทั่งในวันหนึ่งมิตรสหายท่านหนึ่งก็ได้ชักชวนผมไป Live Stream ด้วยกัน และผมก็พบว่าตัวเกมนั้นมีความน่าสนใจกว่าที่ผมเคยคิดเอาไว้มากนักจึงได้ตัดสินใจที่จะกดเกมนี้มา

เรื่องเล่าในเกมนั้นก็ได้กล่าวถึงพ่อหนุ่มหน้าใสรายหนึ่งที่เกิดนึกคึกอยากที่จะอัญเชิญเทพีจากต่างโลกที่มีอิทธิฤทธิ์มากพอจะล้างโลกมา โดยเป้าหมายสูงสุดของไอ้หนุ่มรายนี้ก็มิใช่อื่นใดนอกไปจากความปรารถนาที่จะได้จูบเทพีสุดสยองเพื่อให้สูญ Sanity สักครา

อ่านดูเนื้อหาแบบผ่าน ๆ ก็ชวนให้รู้สึกว่ามันเป็นเกมที่โม่ยชะมัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณจ้อง Screenshot ให้ดีและพบว่าเทพีสาวที่ปรากฏในเกมก็คือสาวน้อยผมชมพูหนวดงามที่ชวนให้ระลึกถึงเทพผู้โด่งดังอันมีนามว่าคธูลู แต่ตัวเกมนั้นก็มิได้มีเพียงแค่มุขขำขันเลอะเทอะ เพราะตัวเกมนั้นแอบซ่อนฉากบูชายัญสุดเถื่อนและ Easter Eggs ที่น่าสนใจเกี่ยวกับตำนานคธูลูเอาไว้มากมาย ผมเชื่อว่าชาวเลิฟคราฟท์เธียนที่เคยได้มีโอกาสอ่านผลงานของคุณเลิฟคราฟท์และสหายของเขามาบ้างก็น่าจะถูกใจใน Easter Eggs ทั้งหลายที่คุณจะได้พบในเกม

แน่นอนว่าเนื้อหาของเกมนั้นได้ถูกเล่าให้กับเราได้ฟังในรูปแบบของ Visual Novel ที่มีเสียงบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นถ้าคุณมีทักษะด้านภาษาไม่สู้จะแข็งแรงสักเท่าใดนัก ผมก็ไม่แนะนำเกมนี้ โดยในส่วนของการเล่นนั้น ตัวเกมก็จะเป็น Point & Click ที่คุณจะมีโอกาสได้ลงมือร่ายคาถาและประกอบพิธีกรรมชวนสูญ Sanity ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งการตัดสินใจกระทำหรือไม่กระทำสิ่งใดก็สามารถที่จะส่งผลต่อฉากจบของเกมที่คุณจะได้พบในตอนท้ายด้วย

ในขณะที่คุณกำลังได้อ่านความเห็นนี้อยู่ ตัวเกมก็มีเทพีสามรายให้ได้จูบกัน รายแรกก็คือแม่สาวหนวดงาม L’neta ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับคธูลูผู้โด่งดัง (และเป็นสาวยันที่สามารถจะพาคุณล่องเรือสวยไปด้วยกัน) รายที่สองก็คือคุณน้อง Missy ในชุดเหลืองผู้ที่เป็นเหมือนกับตัวแทนของราชาในผ้าเหลือง (ที่สามารถจะพาคุณสูญ Sanity ไปกับความซึนของนาง) และรายที่สามก็คือเทพีอันเป็นที่รักของทุกท่านอย่างคุณป้าเนียร์ลาโธเทปผู้มีหูแมว (ที่สามารถจะทำให้คุณหัวร้อนไปกับความพยายามดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดจากนาง) ผมไม่แน่ใจนักว่าตัวเกมจะจบเพียงแค่นี้หรือไม่ แต่ผมจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าทีมพัฒนาจะทำบทต่อไปเป็น DLCs (และผมก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะจ่าย)

ถ้าคุณเป็นชาวเลิฟคราฟท์เธียน ผมก็อยากที่จะแนะนำให้คุณลองที่จะอ่านเกมนี้ดู เพราะเป็นไปได้มากที่คุณจะสนุกกับมัน

ปล. ถ้าคุณเป็นชาวเลิฟคราฟท์เธียนที่ชอบความเห็นนี้ ก็เป็นไปได้มากที่คุณจะชอบเพจนี้
เรื่องเล่าจากข้างใต้ผืนฟ้าที่ไร้แสง [www.facebook.com]
張貼於 2022 年 2 月 6 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
7 個人認為這篇評論值得參考
總時數 92.6 小時 (評論時已進行 10.4 小時)
เมื่อเอ่ยถึง Dungeon Crawler ดี ๆ Mary Skelter ก็คือหนึ่งในซีรีย์อันดับแรก ๆ ที่ผมอยากจะแนะนำ ก็ใช่ที่ว่าตัวเกมนั้นเป็นอนิเมะที่เน้นเซอร์วิสค่อนข้างหนักตามแบบฉบับของ Idea Factory แต่ในส่วนของ Gameplay และ Story มี Dungeon Crawler น้อยเกมจริง ๆ ที่ผมรู้สึกถูกจริตได้มากถึงขนาดนี้

จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ Mary Skelter 2 ก็คือเนื้อหาซึ่งเกี่ยวข้องกับนครโตเกียวที่จมลงไปใต้ดินแดนใต้พิภพที่เรียกว่า Jail (คุก) โดยดินแดนใต้พิภพแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัวที่เรียกว่า Marchens ที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจที่จะต่อกรได้ เดชะบุญที่มีเด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า Blood Maidens ปรากฏกายขึ้น พวกเธอเป็นเหมือนกับเหล่าตัวละครในนิทานก่อนนอน (อลิซ, หนูน้อยหมวกแดง, เจ้าหญิงนิทรา ฯลฯ) ฉบับแอบจิตที่สามารถตบตีและละเวงเลือดของพวก Marchens ได้ เธอก็คือความหวังที่จะช่วยพาเหล่ามนุษย์ที่เหลือรอดปีนกลับขึ้นไปสู่ผิวดินอีกครั้ง

อ่านดูผ่าน ๆ ก็ไม่น่าจะมีจุดใดของเนื้อหาที่ฟังดูโดดเด่น ที่สิ่งที่เยี่ยมยอดเกี่ยวกับ Mary Skelter ก็คือเนื้อหาอันชวนปวดตับ โดยเฉพาะถ้าคุณพอที่จะรู้เรื่องราวของนิทานอันเป็นต้นฉบับของเหล่าตัวละครในเกมและได้มีโอกาสเล่นภาคแรกมาก่อน คุณก็อาจจะรู้สึกเจ็บในอกกับหลายสิ่งที่คุณพบในภาค 2 นี้ (ตัวเกมเวอร์ชั่นนี้มีแถมภาคแรกฉบับปรับปรุงมาให้ด้วยเป็น DLC ผมแนะนำให้คุณเล่นภาค 2 ให้จบก่อนแล้วค่อยย้อนกลับไปเล่นภาคแรกที่เป็น DLCs แต่เหตุผลที่คุณควรจะทำเช่นนั้น ผมคงจะบอกให้ทุกท่านทราบไม่ได้เพราะนั่นจะเป็นการ Spoil ไป)

ในส่วนของ Gameplay ก็ยังเป็นระบบแบบ Dungeon Crawler แบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งโดยทั่วไป แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือเหล่าสาว ๆ ในเรื่องจะมีความสามารถพิเศษที่คุณสามารถจะใช้เพื่อไขปริศนาที่ซ่อนอยู่ในฉาก อีกทั้งสาว ๆ แต่ละคนก็ยังสามารถที่จะเปลี่ยนคลาสเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และนำทักษะแต่ละคลาสมาผสมกันได้ ในช่วงแรกของเกมอาจจะยากอยู่สักหน่อย แต่คุณก็สามารถที่จะ Grind ได้วนไปแทบจะไร้ขีดจำกัดจนสาว ๆ สามารถที่จะฟาดทุกอย่างตายได้ในดาบเดียว (ก็เหมือน Dungeon Crawler โดยทั่วไปนั่นแหละ ตัวเกม Grind หนักมาก ดังนั้นถ้าคุณไม่ชอบที่จะทำอะไรซ้ำ ๆ คุณก็ควรเลี่ยง)

มีสิ่งหนึ่งที่ควรจะกล่าวถึงเกี่ยวกับตัวเกมก็คือในช่วงแรกนั้นตัวเกมมีดราม่าเพราะทางผู้จัดจำหน่ายได้เซนเซอร์มินิเกมที่เป็นเซอร์วิส ดังนั้นคุณจึงอาจจะพบผู้เล่นที่ซื้อเกมมาเพื่อให้คะแนนลบและรีฟันด้วยเหตุผลนี้ แต่ขณะที่คุณกำลังอ่านความเห็นนี้ ทางผู้จัดจำหน่ายก็ตัดสินใจที่จะใส่มินิเกมกลับมาให้แล้ว ทว่าคุณอาจจำเป็นที่จะต้องไปหาไฟล์เพิ่มเอาเองที่หน้า Blog ของผู้จัดจำหน่ายหรือตามฟอรั่มทั่วไปที่เกี่ยวกับเกมนี้ (อยากที่จะแปะลิงก์ให้ แต่ผู้เขียนเพิ่งจะถูกแบนไปเมื่อไม่นานมานี้เพราะแปะลิงก์ ดังนั้นผู้เขียนจึงขออภัยที่แปะลิงก์ทิ้งเอาไว้ให้ไม่ได้) แต่ถึงแม้คุณจะไม่ได้ลงไฟล์แก้ไข มินิเกมที่ถูกแบนออกไปก็ไม่ได้น่าสนใจมากมายหรือสำคัญอะไร (เป็นมินิเกมแบบเซอร์วิสที่กดครั้งเดียวและคุณก็ไม่คิดอยากที่จะเล่นมันอีกต่อไปทำนองนั้น)

สรุปแล้ว Mary Skelter 2 ก็คือเกมที่ผมแนะนำถ้าคุณเป็นผู้ที่ชอบเกมแนว Dungeon Crawler สายเสพเนื้อหาและไม่มีปัญหากับเซอร์วิสหรือจุดหักมุมสุดปวดตับ การผจญภัยในคุกใต้พิภพคงจะเป็นหนึ่งในการผจญภัยที่ยากจะลืมได้ลงเลยทีเดียวสำหรับคุณ (ในหลาย ๆ ความหมาย)
張貼於 2022 年 1 月 31 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
7 個人認為這篇評論值得參考
總時數 13.3 小時 (評論時已進行 7.7 小時)
ในคราแรกเลยผมไม่ได้ตั้งหวังอะไรกับ WE ARE FOOTBALL (WAF) มากนักตอนที่ซื้อ แต่เหตุที่ผมซื้อก็เพราะตัวผมเองเป็นคอบอลแบบเข้าเส้นที่รักจะลองเกมลูกหนังเกือบจะทุกเกมที่มีให้จับ ดังนั้นผมจึงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้พบภายในเกมนี้

ถ้ามองเพียงผ่าน WAF อาจจะแลดูเหมือนกับ FM ราคาถูกหรืออะไรทำนองนั้น แต่โดยเนื้อแท้แล้วทั้งสองเกมต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะในขณะที่ FM จะมีระบบการเล่นเน้นไปที่งานในส่วนของ Head Coach ทว่า WAF จะเน้นไปที่งานของ Manager มากกว่า หรือถ้าจะว่าตัวเกมเป็น Management Simulation เลยก็ใช่ เพราะสิ่งที่คุณจะมีโอกาสได้ทำจะไม่ได้มีเพียงแค่ซื้อขายนักเตะหรือจัดผู้เล่นลง Line-up แต่คุณจะได้รับโอกาสเล่นบทบาทผู้จัดการด้วยการพัฒนาตัวเอง พัฒนาศูนย์ฝึก พัฒนาสโมสร และยังรวมไปถึงงานบริหารและการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรด้วย (แต่งานใดก็ตามที่คุณไม่ต้องการจะทำ คุณก็สามารถที่จะปรับเป็น Auto เพื่อให้ AI ทำงานแทนคุณได้)

สิ่งที่ผมรู้สึกน่าสนใจมาก ๆ ประการหนึ่งเกี่ยวกับเกมก็คือตัวนักเตะในเกมนี้ไม่ได้มี Attributes ยิบย่อยเยอะแยะเหมือนกับ FM แต่ตัวเกมจะใช้ระบบบุคลิก Level พรสวรรค์ จุดเด่นและจุดด้อยแทน โดยเมื่อเริ่มเกม นักเตะแต่ละคนก็จะมี Level เริ่มต้นที่ต่างกัน โดย Level ในเกมก็จะอยู่ในช่วงระหว่าง 1-15 และก็มีจุดเด่นและจุดด้อยติดตัวมา ในบทบาทของผู้จัดการทีม คุณสามารถที่จะพัฒนานักเตะได้ด้วยการฝึกซ้อมและส่งลงสนามเพื่อเก็บค่าประสบการณ์ ยิ่งนักเตะมีค่าพรสวรรค์สูง นักเตะก็สามารถที่จะกลบจุดด้อยและเพิ่มจุดแข็งได้ไวมากขึ้นตามค่าพรสวรรค์ ที่สำคัญคือนักเตะแต่ละคนจะมี Skill Trees ที่แตกต่างกัน คุณจึงสามารถที่จะปลุกปั้นเด็ก ๆ ของคุณได้ตามใจต้องการ โดยเด็ก ๆ ของคุณจะเก่งขึ้นได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผัง Skill Trees ของแต่ละคนคล้ายกับเกม RPG (ตัวคุณเองที่เป็นผู้จัดการทีมก็มี Skill Trees เป็นของตัวเองเหมือนกัน)

สำหรับตัวเกมแทนที่จะเล่นเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมงแบบ FM ตัวเกมก็จะใช้ระบบการวางแผนรายสัปดาห์แทน โดยเมื่อสัปดาห์เริ่มต้นขึ้น คุณก็จำเป็นที่จะต้องวางแผนการซ้อมและตารางงานของคุณให้พร้อม หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เกมดำเนินไป แต่ถ้ามีเหตุการณ์สำคัญใด ๆ เกิดขึ้น เช่นการเจรจาซื้อขาย ตัวเกมก็จะหยุดและให้คุณจัดการปัญหาเหล่านั้นได้ ในช่วงแรกที่เล่นคุณอาจจะรู้สึกมึนงงเพราะมีข้อมูลบนหน้าจอเยอะแยะเต็มไปหมด แต่พอลองเล่นแบบฝึกสอนและลองจับนู่นจับนี่ไปสักชั่วโมง คนส่วนใหญ่ที่อ่านภาษาอังกฤษได้ออกและมีความอดทนพอก็คงสามารถที่จะเข้าถึงเกมได้ไม่ยาก

ส่วนระบบแทคติกและการแข่งขัน ตัวเกมนั้นออกจะให้อารมณ์คล้ายกับ CM ภาคแรก ๆ มากกว่าเพราะไม่มี 3D Match ให้ชม กระนั้นตัวเกมก็สามารถที่จะแสดงการเคลื่อนที่ของบอลและนักเตะที่ครองบอลอยู่ให้กับคุณเห็นได้ในจังหวะสำคัญ ดังนั้นถ้าคุณหวังว่าจะได้ชมการแข่งขันอันดุเดือด คุณก็คงจะผิดหวัง

แน่นอนว่าในส่วน Database นั้น WAF ไม่ได้มีฐานข้อมูลของนักเตะและสโมสรที่สมจริงเหมือนกับ FM ตัวนักเตะ แต่คุณก็สามารถที่จะ MOD เกมได้ถ้าต้องการ

ถ้าถามถึงอารมณ์ตอนที่เล่น ผมรู้สึกเหมือนว่า WAF นั้นจะให้อารมณ์ที่คล้ายกับ FIFA Manager ของ EA (ที่หยุดทำภาคต่อไปแล้วหลายปี) มากกว่า FM โดยตัวเกมนั้นจะให้อารมณ์แบบเข้าถึงง่ายมากกว่าแต่ก็ยากที่จะโปร ผมเชื่อว่าต่อให้คุณจะติดตามฟุตบอลแค่เพียงผ่าน แต่ถ้าคุณเป็นคอเกมแนวบริหาร คุณก็น่าจะยังคงเล่นได้อย่างสนุกถ้าคุณมีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลติดหัวอยู่บ้าง

ในภาพรวมแล้ว WAF ออกจะเป็นเกมที่แตกต่างไปจาก FM อยู่มากพอสมควร หรือจะว่าเป็นเกมคนละแนวเลยก็คงจะใช่ เพราะสิ่งเดียวที่ทั้งสองเกมมีเหมือนกันก็คือเป็นเกมเกี่ยวกับฟุตบอลเพียงเท่านั้น เกมนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคอบอลที่ชอบเกมแนว Management Simulation และอยากที่จะลองเปลี่ยนบรรยากาศจากงาน Head Coach ของ FM ดูบ้าง
張貼於 2022 年 1 月 28 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
7 個人認為這篇評論值得參考
總時數 66.5 小時 (評論時已進行 23.2 小時)
“Romance of The Three Kingdoms” ของ Koei นับได้เป็นหนึ่งในซีรีย์อันเป็นตำนานของวงการเกมหนึ่ง เพราะเกมซีรีย์นี้มีอายุยาวนานถึงกว่าสามทศวรรษแล้ว (ภาคแรกวางขายปลายปี 1985) และเกมเมอร์หลายท่านก็คงจะเคยหยิบจับกันมาตั้งแต่ยังเด็กยันโต ตัวผมเองก็เช่นกัน

เสน่ห์อันยอดเยี่ยมประการหนึ่งที่มีมาแต่เดิมของซีรีย์นี้ก็คือการที่ตัวเกมเน้นในเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ในภาคก่อน ๆ ผู้เล่นมักที่จะมีโอกาสได้ควบคุมตัวละครต่าง ๆ อย่างลงลึกไม่ว่าจะเป็นการเลือกคู่ ทำภารกิจ ผูกมิตร สะสมคน ก่อสงครามทั้งด้วยการศึกและน้ำลาย ซึ่งในภาค 14 นี้รายละเอียดการสวมบทบาทเหล่านี้ได้ถูกตัดออกไปหมด เพราะเกมได้เลือกที่จะปรับตัวไปเป็น Grand Strategy มากขึ้นและตัวเกมก็ได้เลือกที่จะบอกเล่าเรื่องผ่านมุมมองแบบกว้าง ๆ ของเหล่าขุนพลและผู้นำก๊กต่าง ๆ แทน

ผมเข้าใจดีว่าเพราะเหตุใดแฟนซีรีย์ถึงไม่ชอบในความเปลี่ยนแปลงนี้ (เพราะผมก็เป็นแฟนซีรีย์นี้ที่เล่นมาตั้งแต่ MS-DOS) แต่ถ้าคุณถามความเห็นของผม ผมมองว่าตัวเกมไม่ได้แย่ลงเสียทีเดียว มันแค่เปลี่ยนไป “เป็นคนละเกม” เลยเสียมากกว่า แฟนซีรีย์ที่มีอยู่เดิมจึงไม่ชอบมันนัก ในขณะที่ผู้เล่นหลายคนซึ่งคุ้นชินกับ Grand Strategy ทางฝั่งตะวันตกมากกว่ากลับรู้สึกถูกจริตกับมัน ซึ่งในเมื่อผมเป็นสาย Grand Strategy ผมจึงเป็นผู้เล่นในกลุ่มหลังที่ไม่ได้รังเกียจความเปลี่ยนแปลงนี้สักเท่าไหร่

ถ้าให้เล่าถึงระบบการเล่นของภาค 14 อย่างกว้าง ๆ ตัวเกมนั้นก็มิได้เลือกที่จะเล่นกับตัวละครอีกแล้ว แต่ตัวเกมจะเน้นไปเล่นบทของพวกขุนพล ส่วนเหล่าแม่ทัพ กุนซือและขุนนางก็เป็นเพียงแค่ตัวหมาก ดังนั้นแทนที่เราจะได้ใช้เวลาหมดไปกับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่าง ๆ ในภาคนี้เราก็จะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บน World Map เพื่อจัดการงานต่าง ๆ และนั่งทาสีแผนที่ให้กลายไปเป็นสีธงของทัพเราแทน

ในฐานะของขุนพลหรือผู้นำก๊ก สิ่งที่คุณจะได้ทำก็คือการเลือกใช้คนไปทำงาน คุณไม่มีโอกาสที่จะได้ลงไปกำกับงานเหล่านั้นด้วยตัวเองอีกแล้ว ทุกอย่างจะดำเนินไปแบบอัตโนมัติ โดยผลลัพธ์ที่เกิดก็จะขึ้นอยู่กับค่าพลัง ทักษะ นิสัยใจคอและลักษณะเฉพาะของตัวละครที่คุณได้สั่งงานไป (ถ้านึกภาพไม่ออก ผมก็ขอให้คุณจินตนาการว่าคุณนั่งหล่อ ๆ สวย ๆ อยู่กับโต๊ะประจำตำแหน่งและชี้นิ้วสั่งข้าทาสบริวารให้ไปทำงานเอาก็ได้ อารมณ์ประมาณนั้น)

ส่วนในการรบนั้นก็จัดได้ว่าเปลี่ยนไปมาก เพราะตัวเกมจะไม่มีแยกจำพวกทหารว่าเป็นพลเดินเท้า พลธนูหรือทหารม้า ทว่ากำลังรบของคุณจะเป็นกำลังผสมที่มีความสามารถการรบขึ้นอยู่กับแม่ทัพและแผนการรบที่ใช้ แม่ทัพแต่ละคนในเกมจะมีแผนการรบที่รู้จักและใช้ได้ต่างกัน

แผนการรบบางอันช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้ทหาร บางแผนช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่เหมือนม้าเร็วเพื่ออ้อมหลังหรือตัดเสบียง บางแผนก็เพื่อใช้ตีเมือง และบางแผนก็เน้นเพื่อเพิ่มโอกาสที่แม่ทัพจะใช้ทักษะพิเศษของตนออกมา คุณในฐานะกุนซือการรบจำเป็นที่จะต้องกำหนดแผนการรบให้เสร็จตั้งแต่ก่อนเคลื่อนทัพออกจากเมืองรวมไปถึงกำหนดเส้นทางการเดินทัพ หลังจากนั้นกองทหารของคุณก็จะเดินทัพและรบไปตามอัตโนมัติ (แม้แต่การดวลก็มีโอกาสเกิดขึ้นอัตโนมัติเช่นกัน โอกาสขึ้นอยู่กับแผนการรบและอุปนิสัยของแม่ทัพ)

การที่ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติอาจจะฟังดูโง่ ๆ แต่ในทางกลับกัน ระบบนี้ก็บีบบังคับให้คุณต้องวางแผนให้ถี่ถ้วนมากขึ้นและพึ่งพาการแก้ไขเฉพาะหน้าน้อยลง การรบในภาค 14 จึงให้อารมณ์เหมือนกับกุนซือที่คอยสั่งการอยู่กับเมืองหรือค่ายทหารและทำได้เพียงแค่รอลุ้นผลลัพธ์อยู่ไม่น้อย ยิ่งคุณรอบคอบและละเอียดมาก ผลลัพธ์ที่เกิดก็ยิ่งทำให้คุณรู้สึกพอใจได้มาก อีกทั้งระบบนี้ยังทำให้การตัดสินใจเลือกใช้คนยิ่งมีผลกับการรบมากขึ้น (เหมือนยังในนวนิยายต้นฉบับ ที่การเลือกใช้คนสามารถที่จะตัดสินผลได้เลยว่าจะปังหรือจะพัง) แต่สำหรับสายสั่งการแบบเกาะติดแนวหน้าและต้องการให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม ผมไม่คิดว่าคุณจะชอบใจในระบบนี้นัก

เสบียงและเส้นทางการลำเลียงกลายเป็นอีกสิ่งที่สำคัญมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในระบบใหม่ เพราะในเมื่อคุณควบคุมทุกปัจจัยในการรบไม่ได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้องรอบคอบมากขึ้นในการรุกไล่หรือเดินทัพ เพราะเป็นไปได้ว่าในขณะที่คุณดาหน้าขึ้นเพื่อตีเมือง อีกฝ่ายสามารถที่จะใช้แม่ทัพและม้าเร็วแค่หยิบมือวิ่งอ้อมหลังตัดเส้นทางลำเลียงและเผาเสบียงของคุณ และทหารเรือนแสนของคุณก็จะระเหยเหมือนกับทหารของอ้วนเสี้ยวในศึกกัวต๋อ

นอกจากสิ่งเด่น ๆ ที่กล่าวไป ก็ยังมีหลายจุดที่เปลี่ยนไปยกตัวอย่างก็เช่นเมืองจะรายล้อมไปด้วยเมืองเล็ก ๆ เหมือนในวรรณกรรมที่ป้องกันตัวเองไม่ได้ แต่คุณก็ยังคงส่งบริวารไปช่วยดูแลพัฒนาเพื่อทรัพยากรได้ และถ้าเมืองโดยรอบถูกข้าศึกยึดจนหมด เมืองใหญ่ก็จะล้มไปด้วยเหมือนกับเกมหมากล้อม การอ่านเกมล่วงหน้าให้ขาดจึงสำคัญมากในการล้อมเมืองทั้งตอนที่คุณรับและรุก

ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวไป สามก๊กในภาค 14 นี้จึงเป็น “คนละเกม” กับภาคก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ถ้าคุณต้องการจะเล่นเกมที่คล้ายกับภาคแรก ๆ จนถึง 11 ผมก็ไม่แนะนำเกมนี้ให้กับคุณ แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหาที่จะจับ Grand Strategy ที่เป็นธีมสามก๊กและไม่ยึดติดกับภาคก่อน ๆ มากนัก ผมก็คิดว่าคุณจะโอเคกับภาคนี้

อย่างไรก็ดี ตัวเกมแพงมาก และถึงแม้ผมจะเล่นมันอย่างสนุกและชอบมัน ผมก็คิดว่ามันแพงเกินค่าตัวไปมาก (มากแบบมาก ๆ และราคาก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกลังเลมากว่าควรจะแนะนำมันดีหรือไม่) ผมจึงแนะนำว่าคุณควรที่จะรักวรรณกรรมเรื่องสามก๊กจริง ๆ เพื่อซื้อมัน และผมแนะนำว่าคุณควรซื้อแพ็คที่มีภาคเสริม Diplomacy & Strategy ด้วย เพราะภาคเสริมตัวนี้จะช่วยเพิ่มลูกเล่นหลายสิ่งที่น่าสนใจเข้ามาทั้งด้านการทหารและการทูต (เป็นอีกเรื่องที่ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เพราะลูกเล่นเหล่านี้ควรจะมีมาพร้อมกับเกมหลักไม่ใช่ในภาคเสริม)

แน่นอนว่าคุณควรจะซื้อก็แต่เฉพาะเมื่อมันลดราคาเท่านั้น
張貼於 2021 年 11 月 28 日。
這篇評論值得參考嗎? 搞笑 獎勵
< 1  2  3  4  5 ... 19 >
目前顯示第 21-30 項,共 183 項